Hawkeye Season 1 เป็นหนึ่งในซีรี่ย์จากจักรวาลมาร์เวลที่ให้ความรู้สึกทั้งอบอุ่น ติดดิน และระเบิดความมันแบบคอมมิกได้อย่างลงตัว เรื่องราวเริ่มต้นจากภารกิจที่ดูจะเรียบง่ายที่สุดเท่าที่อเวนเจอร์สตัวหนึ่งจะขอได้ นั่นคือคลินต์ บาร์ตันต้องการกลับบ้านเพื่อฉลองคริสต์มาสกับครอบครัว แต่เมื่อเงาจากอดีตที่เขาพยายามลืมกลับปรากฏขึ้นท่ามกลางไฟประดับคริสต์มาสในนิวยอร์ก ความตั้งใจง่ายๆ ก็กลายเป็นการผจญภัยที่อันตรายและวุ่นวายเกินคาด
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้โดดเด่นคือการเล่าเรื่องที่เน้นความเป็นมนุษย์ของฮีโร่มากขึ้น คลินต์ไม่ได้เป็นเทพเจ้า ไม่ได้มีเกราะล้ำสมัย และไม่ได้มีพลังเหนือมนุษย์ เขาเป็นเพียงชายที่อยากกลับบ้านให้ทันงานเลี้ยง บาดแผลจากอดีตและความเสียใจยังคงตามหลอกหลอน แต่เขายังคงต่อสู้เพราะรู้ว่าภัยร้ายครั้งนี้อาจทำร้ายคนบริสุทธิ์หากเขาไม่เข้าไปจัดการ
เมื่อฮีโร่ธรรมดาต้องกลับมารับผิดชอบอดีตที่ตามหลอกหลอน
ความสนุกเริ่มต้นเมื่อเคท บิชอป เด็กสาวผู้ชื่นชมฮอคอายมาตั้งแต่เด็กและได้รับการฝึกด้านธนูอย่างจริงจัง ได้พบอุปกรณ์บางอย่างที่เชื่อมโยงกับอดีตอันโหดร้ายของคลินต์ เธอแต่งชุดรอนินออกไปต่อสู้กับเหล่าอาชญากรโดยไม่รู้ตัวว่านี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ เพราะทันทีที่ชุดรอนินถูกเห็นบนท้องถนน กลุ่มศัตรูที่เคยเดือดร้อนจากการกระทำของฮอคอายในช่วงที่เขาตกสู่ด้านมืดก็กลับมาล่าอีกครั้ง
คลินต์ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปกป้องเด็กสาวที่อยู่ผิดที่ผิดเวลาจนกลายเป็นเป้า เขาไม่อยากเป็นคู่หูกับใคร ไม่อยากผูกพันกับใครอีกแล้ว แต่เคทกลับเป็นคนที่ดึงเขาออกจากความมืด ด้วยความไร้เดียงสาปนความมุ่งมั่น ความสามารถด้านธนูที่ไม่ธรรมดา และความศรัทธาในฮีโร่ที่เธอเชื่อว่ามีตัวตนจริง สิ่งนี้ทำให้คลินต์เริ่มมองเห็นความหวังบางอย่างที่เขาคิดว่าหายไปหลังสงครามกับธานอส
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ถูกเล่าแบบค่อยเป็นค่อยไป เต็มไปด้วยบทสนทนาที่อบอุ่นปนตลก เคมีของทั้งคู่เป็นธรรมชาติและช่วยให้เรื่องราวกลมกล่อมจากการไล่ล่าและปริศนาที่ถาโถมเข้ามา ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสที่ตัดกับความรุนแรงได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งสบายใจและลุ้นระทึกไปพร้อมกัน
อดีตของคลินต์ในฐานะรอนินคือจุดศูนย์กลางของซีซันนี้ การต้องเผชิญหน้ากับความผิดพลาดที่เขาฟื้นคืนไม่ได้ทำให้เขาอ่อนแรงทางอารมณ์กว่าที่เคยเห็นในจักรวาลมาร์เวล เขาไม่ใช่คนที่ไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาคือคนที่หนักแผ่นหลังด้วยบาปทุกรายชื่อของอาชญากรที่เขาตัดสินด้วยมือของตัวเอง และตอนนี้เขาต้องรับผิดชอบผลของมันโดยไม่สามารถวิ่งหนีอีกต่อไป
คู่หูจำเป็น ความจริงที่หลบซ่อน และหัวใจฮีโร่ที่ไม่เคยหาย
สิ่งที่ทำให้ Hawkeye Season 1 น่าสนใจยิ่งขึ้นคือการค่อยๆ คลี่คลายปริศนาที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งแก๊งอาชญากรเฮฮาอย่าง Tracksuit Mafia ที่สร้างสีสันให้เรื่องราว ไปจนถึงพลังมืดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งค่อยๆ เปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับตัวละครสำคัญในจักรวาลมาร์เวลคนอื่น
เคท บิชอปเองก็มีเรื่องราวครอบครัวที่ซับซ้อน เธอไม่ได้เพียงเป็นเด็กสาวผู้ชื่นชมฮีโร่ แต่ยังต้องรับมือกับความลับดำมืดที่กัดกินครอบครัวของเธอจากภายใน การเปิดเผยชั้นเชิงต่างๆ ทำให้ผู้ชมมองเห็นว่าไม่มีใครในเรื่องนี้เป็นเพียงขาวหรือดำ ทุกคนมีแผลและเหตุผลของการกระทำของตนเอง
ความดราม่าจากชีวิตส่วนตัวของตัวละครถูกสอดแทรกเข้าไปอย่างมีน้ำหนัก ทำให้ฉากแอคชันไม่ใช่แค่ความมันแบบภาพยนตร์ แต่มีความหมายมากขึ้น เมื่อคลินต์ลงมือสู้ เขาไม่ได้สู้เพราะหน้าที่ แต่สู้เพราะเขาต้องปกป้องคนบริสุทธิ์จากความผิดพลาดในอดีต เมื่อเคทลงมือสู้ เธอทำเพราะเธอเลือกจะเป็นฮีโร่ ไม่ใช่เพราะใครมาบังคับให้เป็น
ฉากแอคชันของซีรีส์เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในแบบฮอคอาย ทั้งลูกธนูพิเศษ ความแม่นยำแบบไม่ต้องใช้พลังเหนือมนุษย์ และการประยุกต์ไอเดียที่ชวนให้ยิ้ม แต่ก็ยังคงความจริงจังเพียงพอให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเสี่ยงในทุกวินาที ซีซันนี้ยังมีฉากไล่ล่าบนถนนที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะผสมทั้งอารมณ์ขัน ความหวาดเสียว และความเก่งกาจของทั้งคู่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ไฮไลต์อีกอย่างคือการปรากฏตัวของตัวละครสำคัญจากจักรวาลอื่นที่เชื่อมโยงเข้ามาอย่างลงตัว ทำให้ซีรีส์มีเสน่ห์และความน่าติดตามเพิ่มขึ้นโดยไม่กลืนโทนเรื่องเดิม ความสัมพันธ์และความขัดแย้งที่ซ่อนอยู่ในตัวละครนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงอันตรายที่หนักกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มแรงขับให้เรื่องราวเดินหน้าไปสู่จุดสำคัญของตัวละครแต่ละคน
หนึ่งในประเด็นที่ซีรีส์ทำได้ดีคือการสะท้อนความเป็นมนุษย์ของฮีโร่ ทุกครั้งที่คลินต์ได้รับบาดเจ็บ ผู้ชมจะได้เห็นผลที่ตามมาจริงๆ เขาเหนื่อย เขาปวด เขาต้องใช้เครื่องช่วยฟังเพราะการต่อสู้ตลอดหลายปีทำให้ร่างกายเขาพังเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด แต่สิ่งนี้เองที่ทำให้คลินต์เป็นฮีโร่ที่ใกล้มนุษย์ที่สุด และนั่นทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับเขามากขึ้น
เคท บิชอปในอีกด้านหนึ่งคือพลังงานรูปแบบใหม่ของ MCU เธอสด เธอซน เธอมั่นใจ และเธอผิดพลาดได้ แต่ทุกครั้งที่เธอล้ม เธอจะลุกขึ้นพร้อมความมุ่งมั่นยิ่งกว่าเดิม การพัฒนาในซีซันนี้ทำให้เธอกลายเป็นฮีโร่ตัวจริงที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่บทบาทที่ใหญ่กว่าที่เธอเคยจินตนาการ
บรรยากาศของนิวยอร์กในช่วงคริสต์มาสถูกใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง มันทั้งสวย อบอุ่น และตัดกับความรุนแรงของเนื้อหาได้อย่างงดงาม แสงไฟและเสียงเฉลิมฉลองทำให้เรื่องราวดูมีความหวัง แม้จะเต็มไปด้วยอันตรายก็ตาม
ท้ายที่สุด Hawkeye Season 1 คือการปิดบทบางอย่างในชีวิตของคลินต์ บาร์ตัน และเป็นการเปิดบทใหม่ให้กับเคท บิชอปในฐานะผู้สืบทอดธนูในโลกของ MCU ฉากจบเต็มไปด้วยความอบอุ่นและให้ความรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวละครทั้งคู่ผ่านมานั้นมีคุณค่าและความหมาย มันคือเรื่องราวของการยอมรับอดีต การให้อภัยตัวเอง และการเลือกเส้นทางที่ต้องการเดินต่อไป
หากคุณชื่นชอบซีรี่ย์ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีทั้งอารมณ์ขัน แอคชันมันๆ การสืบสวน และความดราม่าในแบบที่จับต้องได้ Hawkeye คือซีซันที่กลมกล่อมและน่าติดตามมากที่สุดเรื่องหนึ่งของมาร์เวล
สนใจติดตามซีรี่ย์แนวเดียวกันเพิ่มเติมสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่ ดูซีรี่ย์ฝรั่ง